Trend แนวโน้มการใช้ชีวิตและธุรกิจปี 2021

พงศธร ละเอียดอ่อน
Executive Director
FiF Design Studio

สถานะการณ์ในโลกตั้งแต่ปลายปี 2020 มาจนต้นปี 2021 นั้นแนวโน้มสถานการณ์ต่างๆ ในโลกดูเหมือนจะยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจนใดๆ ในการกลับมาสู่สภาวะการใช้ชีวิตปรกติเหมือนก่อนหน้า นับเป็นคืนข้ามปีที่ดูเหมือนทั้งโลกจะไม่มีการเฉลิมฉลองกันมากมายนัก รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย งานต่างๆ ที่วางแผนมากันทั้งปีกลับกลายต้องยกเลิก เปลี่ยนแปลง เลื่อนออกไปอย่างไม่รู้ว่าจะวางอนาคตไว้ตรงไหน ตั้งแต่ข่าว COVID-19  เริ่มขยายสายพันธ์ใหม่ในต่างประเทศ และเกิดการระบาดระลอกที่ 2 ในประเทศไทย และอัตราการติดเชื้อที่ยังคงไม่มีทีท่าจะชะลอตัวลงในโลก การห้ามเข้าออกประเทศ การขนส่งสินค้าที่ยุ่งยากมากขึ้น ปัญหาฝุ่น pm2.5 รายได้ที่ลดลงของผู้คนส่วนใหญ่ การว่างงาน และอื่นๆ ที่ยังจะตามมาอีกหลายอย่างที่คาดเดาได้ยากในปี 2021 นี้ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายทุกๆ คนเป็นอย่างยิ่ง

ทุกๆ ท่านคงเห็นแล้วว่าผลกระต่อทบต่างๆ ต่อเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินชีวิตในปีนี้นั้น ไม่ได้มาจากตัวเชื้อโรค COVID-19 หรืออาการเจ็บป่วยจากโรคโดยตรง แต่มาจากวิธีการติดเชื้อที่ง่ายและผู้แพร่เชื้อไม่จำเป็นต้องมีอาการ และนั่นทำให้นโยบายการป้องกันการติดเชื้อจากโรคของแต่ละประเทศได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจด้านต่างๆ และการใช้ชีวิตของประชาชน ทำให้เห็นว่าประเทศที่มีนโยบายที่ไม่คุมเข้ม ก็ทำให้มีประชากรผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก โดยสมมุติฐานที่ว่าจะสามารถสร้างภูมิต้านทานในหมู่ประชากรได้ก็สั่นคลอนจากการพบเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ในโลก นั่นหมายความว่านโยบายต่างๆ นั้นอาจจะไม่สิ้นสุดที่  COVID-19 เป็นเรื่องที่ทำให้การวางแผนงานในสิ่งที่เคยทำมาตลอดนั้น ต้องคิดใหม่ และมองภาพใหม่โดยสิ้นเชิง

ภาพที่ผมว่าเราควรมองให้เห็นชัดเจนก็คือ แนวโน้มการใช้ชีวิตของผู้คนในโลก จะเปลี่ยนไปอย่างไรในพื้นที่ที่เราอยู่ ในตลาดที่เราอยู่ น่าจะเป็นคำถามเชิงจินตนาการที่ชวนฝันของทุกคนวันนี้ การจินตนาการถึงฉากชีวิตใน scenario ใหม่ๆ เป็นทักษะสำคัญที่นักออกแบบสร้างสรรค์ต้องมี และต้องฝึก หากท่านที่เรียนออกแบบด้านต่างๆ มาและได้เคยฝึกโจทย์แบบ “จะเป็นอย่างไรหาก…..น้ำท่วมโลกในระดับที่กรุงเทพฯ จมน้ำ? ไม่มีรถยนต์อีกต่อไป? เราไม่มีหมอในโลกนี้? จินตนาที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เหล่านี้ ช่วยปลุกต่อมความคิดสร้างสรรค์ว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร? สินค้าบริการ อาคารสถานที่ ระบบต่างๆ จะเป็นอย่างไร? นโยบายภาครัฐควรเป็นอย่างไร?​ ธุรกิจอะไรที่จะหายไป อะไรที่เกิดใหม่ขึ้นมา?​ ทักษะนี้ในตอนนี้คือทักษะที่จำเป็นที่จะต้องนำมาใช้กันแล้วในวันนี้

ดังนั้นวันนี้จะขอชวนจินตนาการ ชวนคิด ชวนมองแนวโน้มการใช้ชีวิตของผู้คนในโลก ในประเทศไทย และสิ่งต่างๆ รอบตัวเราว่าจากนี้น่าจะเป็นอย่างไร และแนวทางควรจะทำอะไรกันบ้างดี แน่นอนว่าไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างต่อไป แต่อย่างน้อยการได้จินตนาการและคิดถีงแนวทางต่างๆ ให้มากพอ จะทำให้เรามองเห็นทางเดินของตัวเราเองบนเส้นทางสมมุติต่างๆ แล้วสุดท้ายจะเห็นว่าในเส้นทางต่างๆ ที่จินตนาการจะเหมือนมีเส้นทางหนึ่งที่ซ้ำๆ กันที่เรายินดีที่จะเดินไปในทางของเราเอง และนั่นแหละครับคือเส้นทางที่เราควรจะเริ่มออกเดินทาง เพราะเชื่อมั่นได้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เส้นทางนี้ก็จะเป็นเส้นทางที่เราจะเลือกเดินไปข้างหน้าได้อย่างมีความสุขและมั่นคง 

ขอเริ่มต้นคำถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นหากโรคระบาดติดเชื้อได้ในลักษณะนี้ ไม่หมดไปจากโลกและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป?” การดำเนินชีวิตของคนน่าจะเป็นอย่างไร? 

ด้านการกินอยู่ การออกไปทานอาหารนอกบ้านจะไม่เป็นกิจกรรมที่ ง่ายเหมือนเดิม เราคงจะไปทานอาหารนอกบ้านด้วยเหตุผลที่จำเป็น และร้านอาหารจะรับลูกค้าได้น้อยลง ร้านราคาถูกในสถานที่แพงๆ จะอยู่ไม่ได้ ร้านอาหารพวกรับคนน้อย ราคาสูงจะมากขึ้น เช่นลักษณะร้านที่ต้องจองโต๊ะ และมีไม่กี่โต๊ะในร้านให้บริการที่พิเศษโดยมีราคาที่สูงแต่คุ้มค่าด้วยบริการที่ดี น่าจะเป็นที่สนใจในการไปรับประทานอาหารนอกบ้านในโอกาสพิเศษๆ ส่วนอาหารประจำวันนั้น น่าจะมีลักษณะ  Grab ‘n’ Go  และ delivery เป็นสำคัญ เพราะมีปฏิสัมพันธ์กับทางร้านน้อยและปลอดภัย และนั่นหมายถึงการให้ความมั่นใจในความสะอาดปลอดภัยของอาหารที่สูง และน่าเชื่อถือจะเป็นสิ่งที่ถูกมองเป็นอันดับต้นๆ (อาจจะมาก่อนรสชาติหรือราคา) การทำอาหารทานเองที่บ้านจะเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่กึ่งสำเร็จรูปไปจนถึงเริ่มทำตั้งแต่ซื้อวัตถุดิบมาปรุงเอง นั่นรวมถึงรูปแบบของการ partyในหมู่เพื่อนสนิทที่มาทำอาหารทานกันเพื่อความบันเทิงจะเป็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นกว่าการออกไปทานอาหารที่ร้านเพื่อสังสรรค์ ทำให้  platform ด้านอาหารรูปแบบต่างๆ เติบโต ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร การเรียนทำอาหาร หารซื้อวัสดุ อุปกรณ์ และการหาความรู้สาระบันเทิงด้านอาหารน่าจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมาก โดยความสนใจหลักจะมุ่งเน้นที่อาหารที่ดีต่อสุขภาพ และสุนทรียภาพในการกิน ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง อาหารการกินใดๆ ก็ตามที่ไม่ดีต่อสุขภาพจะถูกขุดคุ้ยตีแผ่ ทั้งจากสื่อหลักและคนในสังคม online จนอาจจะทำให้รายใหญ่ๆ ที่ทำอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้รับผลกระทบจนถึงขั้นต้องหายไปจากตลาด เกิด brand ใหม่ๆ ที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น

ด้านการเดินทาง ค่อนข้างชัดเจนว่าหากการระบาดของเชื้อโรคในรูปแบบนี้มีอยู่ การเดินทางที่ต้องอยู่ด้วยกันในระบบขนส่ง จะเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น การตรวจสอบ การไว้เนื้อเชื้อใจกันจะเป็นผลให้ ผู้คนเลือกที่จะเสี่ยงให้น้อยที่สุดโดยเดินทางเท่าที่จำเป็นจริงๆ และด้วยการเดินทางที่เชื่อใจได้จริงๆ เป็นตัวเลือกต้นๆ ส่วนระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อใจเรื่องการติดเชื้อไม่ได้ เช่น รถหรือเครื่องบินโดยสารปรับอากาศที่ต้องนั่งกันไปเป็นเวลานานๆ จะเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงโดยเฉพาะการที่ต้องไปต่อรถหรือต่อเครื่องในพื้นที่แพร่ระบาดรุนแรง อะไรจะเป็นตัวเลือกของการเดินทาง หากจำเป็นต้องเดินทางกันจริงๆ แน่นอนรถยนต์ส่วนตัว สำหรับผู้ที่มีทางเลือกในการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จะเป็นทางเลือกแรกในการเดินทาง หรือไปกับรถยนต์ส่วนตัวของคนที่ไว้ใจได้ สำหรับรถยนต์สาธารณะ ที่คนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวจะเลือกใช้นั้น ความไว้วางใจได้จะเป็นฐานในการตัดสินใจ เช่น รถแท๊กซี่ก็จะต้องมีระบบกั้นระหว่างผู้โดยสาร และมีระบบทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐานวางใจได้ ตรวจสอบได้ มีการคัดกรองและบันทึกการเดินทางของผู้มาใช้บริการและคนขับอย่างละเอียด น่าจะเกิดรูปแบบบริการขนส่งสาธารณะใหม่ๆ ที่ไว้วางใจได้เป็นตัวเลือกเพิ่มขึ้น หรือบริการในการจัดการด้านการดูแลป้องกันการติดเชื้อในระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นในรูปแบบของสินค้าและบริการ ทั้งนี้ขึ้นกับนโยบายของภาครัฐในแต่ละประเทศแต่ละพื้นที่ว่าจะเปิดให้กลุ่มที่มีบริการใหม่ๆ เหล่านี้เข้ามาได้หรือไม่เพราะระบบขนส่งสาธารณะจะอยู่ในการกำกับดูแลขแลของภาครัฐ 

ด้านการทำงาน เมื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณพนักงานที่ต้องอยู่ร่วมกันลงให้เหลือเท่าที่จำเป็น รูปแบบการทำงานด้วยเครื่องมือ online ต่างๆ คงจะเป็นเรื่องจำเป็นอย่างที่ทราบกันดี co-working space แบบกายภาพถึงจุดเปลี่ยนเพราะไม่มีใครต้องการไปนั่งกับคนแปลกหน้านานๆ อยู่กันใกล้ๆ ในที่ปิด โอกาสของ platform ใหม่ๆ ที่เข้าใจ  insight ของงานด้านต่างๆ จะพัฒนาเครื่องมือ online ที่โดนใจแต่ละกลุ่มผู้ใช้จะทยอยออกมากันเรื่อยๆ ไปจนถึง hardware, software และ platform ด้านบันเทิงใหม่ๆ ที่ผลิกแนวคิดความบันเทิงร่วมกันในรูปแบบ ที่ไม่ต้องมาเจอกันจริงๆ จะเกิดขึ้นมากขึ้นและเป็นโอกาสสำคัญของนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในการคิดรังสรรค์ สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่จะมารองรับทั้งด้านการทำงานและบันเทิง

ด้านการเรียน เด็กๆ ดูจะเป็นกลุ่มที่สังคมจะปกป้องดูแลเป็นอย่างดี ดังนั้นความเสี่ยงการมาเรียนร่วมชั้นเรียนเดียวกันในสถานะการแพร่ระบาดดูจะเป็นเรื่องที่จะไม่เกิดขึ้น การเรียน online เริ่มต้นตั้งแต่ต้นปีมาและทำท่าจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ผู้ปกครองต้องรับบทบาทครูของลูกๆ มากขึ้น ต้องใช้เวลากับลูกๆ มากขึ้นจนในที่สุดจะมีพ่อแม่ไม่น้อยที่คิดว่า ถ้าฉันต้องเหนื่อยขนาดนี้ทำ home school เลยดีมั๊ย? เพราะครูที่โผล่มาในจอของโรงเรียนก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการเสียเงินให้กับ platform การศึกษาดีๆ ระดับโลกที่สามารถให้ลูกเรียน online และสอนเองควบคู่กันไป ตรงนี้เองหากโรงแรียนท้องถิ่นที่มีค่าเทอมแพง จะเริ่มมีปัญหา ส่วนนักเรียนในที่ห่างไกลจะมีช่องทางมากขึ้นเพราะมีเครื่องมือและความรู้ในการเรียน online ด้วยตัวเองมากขึ้น และระบบการศึกษาดีๆ จากแหล่งดีๆ บน onlineจะมากขึ้นและเป็นโอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาของประชาชนครั้งใหญ่ เราอาจจะได้เห็นสังคมที่มีความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษาในเร็ววันนี้ ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงระดับอุดมศึกษา และความรู้ที่จะนำไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคต จะได้รับความสนใจมากกว่าความรู้ที่ให้เรียนไปโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน การเปรียบเทียบองค์ความรู้จากหลายแหล่ง จะเป็นเรื่องปรกติของผู้คนและแหล่งที่ดีจริงเท่านั้นที่จะได้รับความนิยม ครูตู้ทั้งหลายจะเกิดขึ้นมากมายในโลก online ในด้านต่างๆ ไล่ละเอียดย่อยไปในเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต การเรียนดูเหมือนจะขยายผลไปในด้านบวกเพิ่มจากความรู้ในโลก online แต่สิ่งที่น่าห่วงตามมาคือการฝึกทักษะเชิงปฏิบัติจะลดลง เพราะไม่มีที่ให้ฝึก ไม่มีอุปกรณ์ที่บ้าน และไม่มีผู้ที่มีประสบการณ์ช่วยเป็นพี่เลี้ยง ตรงนี้อาจจะเป็นโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจที่สามารถเป็นที่ฝึกทักษะ ฝึกประสบการณ์จริง แชร์เครื่องมือ ความรู้และประสบการณ์กับเกิดมากขึ้น ในระบบที่จะต้องมีความปลอดภัยและมั่นใจได้ ในเรื่องของการติดเชื้อนั้นคือ กระจายตัวออกไปเป็นโหนดย่อยๆ มากกว่าจะมารวมศูนย์เป็นที่ใหญ่ๆ แออัด แบ่งออกเป็นเรื่อง ย่อยๆ และใช้คนไม่มากในสถานที่นั้นๆ 

ด้านอื่นๆ อีกหลากที่สามารถนั่งจินตนาการกันได้ทั้งวัน ผมคงไม่มีพื้นที่มากพอที่จะเขียน แต่เพียงเท่านี้ ทุกท่านคงพอเห็นภาพกระบวนการจินตนาการถึงความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นจากผลของสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นได้ กระบวนการนี้ยิ่งทำด้วยกันหลายคน หลายสาขาอาชีพจะยิ่งสนุกและได้มุมมองที่หลากหลาย และจะสังเกตเห็นได้ว่า มีโอกาสปรากฏขึ้นเป็นระยะๆ ในการที่จะเป็นช่องทางที่จะพัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในอนาคตที่เราเห็นว่าน่าสนใจและเหมาะที่จะทำ ลองเลือกมาทดลองทำดู และวัดผลที่เกิดขึ้น ปรับปรุงจนได้แนวทางที่ชัดเจน เราก็จะเริ่มจับทางเดินของตนเองต่อไปได้และเริ่มออกเดินทาง

แนวคิดใหม่ในการดำเนินธุรกิจจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ เป็นแนวคิดที่ประสานการใช้ชีวิต ความสุข สุขภาวะ และการทำงานเข้าด้วยกัน ลองนึกภาพสิครับว่าต้องสอนหนังสือลูกไป และประชุมงานไป ทำงานไป ทำอาหารให้ตัวเองและครอบครัว พักผ่อนและบันเทิง และอื่นๆ ทั้งหมดจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันไปด้วยกัน ไม่แบ่งแยกเวลาชัดเจนเหมือนแต่ก่อน ดังนั้นรูปแบบงานในอนาคตที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัตินี้จะงอกงามขึ้น ส่วนที่ขัดแย้งจะค่อยๆ หายไป องค์กรหรือหน่วยงานต้องปรับตัวอย่างมากในการสร้างระบบการทำงานใหม่ที่รองรับ วิถีชีวิตแบบนี้ และวัดผลที่เนื้องานไม่ใช่เวลาที่ทำงาน ทำให้คนที่ไม่มีประสิทธิภาพจะไม่มีงานให้ทำ คนที่ไม่มีความรับผิดชอบจะไม่ก้าวหน้า และคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์จะหารูปแบบชีวิตของตัวได้ยากมาก และเราจริงๆ ควรจะทำอะไรอย่างไรบ้างกับชีวิต นักคิดนักสร้างสรรค์ตัวจริงจะเป็นกลุ่มคนที่สนุกกับช่วงเวลานี้ มีโอกาสใหม่ๆ เปิดออกมากมายและมีตลาดใหม่ๆ ที่พร้อมและต้องการสินค้าและบริการใหม่ๆ มากมาย เขาจะเดินต่อไปข้างหน้าได้เร็วและไปได้ไกล แต่แน่นอนต้องมีทักษะในการลงมือทำ มีความเพียร และมีความรู้จริงในเรื่องที่จะทำ และมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างดี

แผนธุรกิจต่อจากนี้จะไม่ใช่การมุ่งหารายได้สูงสุดโดยละทิ้งด้านอื่นๆ ของชีวิต เช่น สุขภาพ ครอบครัว สังคม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ  การสร้างสมดุลย์ของ demand (ความต้องการของสิ่งของต่างๆ ในการใช้ชีวิต) + supply (ความสามารถในการหาสิ่งต่างๆ เข้ามาในชีวิตได้) เพื่อการใช้ชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืน น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องการเรียนรู้และพยายามที่จะนำมาปรับใช้กับชีวิตของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากการเติบโตของ Life coaching และ Mindfulness platform ต่างๆ ในปีที่ผ่านมา 

ไม่ว่าเรากำลังจะคิดอะไร ทำอะไร ถนนทุกสายอาจจะมุ่งหน้าสู่คุณค่าการใช้ชีวิตที่สมดุลย์ ตัดทางลัดไปสู่ความสุขสมดุลย์ที่ยั่งยืน ที่ผ่านมาเราอาจจะเสียเวลาเดินอยู่ในเส้นทางที่วนไปมา ตัวอย่างเช่น เราเชื่อว่าการหาเงินมากๆ จะทำให้มีความสุข การมีความรู้มากๆ จะหาเงินได้มากๆ ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่หรูหราเหมือนในหนังโฆษณา ฯลฯ จากปี 2021 นี้ไปจะมีผู้คนที่เข้าใจ ตื่นรู้และเดินทางลัดมากขึ้นไปสู่จุดที่ความพึงพอใจในชีวิตได้รับ การเติมเต็มจากตัวเองไม่ใช่สิ่งของรอบข้าง  หาเงินเพียงเพื่อแลกเปลี่ยนนำสิ่งที่มีคุณค่าแท้จริงมาให้ตนเอง ครอบครัว และสนับสนุนผู้อื่น คนที่สามารถเป็นผู้นำทางในเส้นทางแบบนี้ได้นั้นจะเป็นคนที่ต้องการของอนาคต 

องค์ประกอบการคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจใหม่เมื่อใช้ฐานคุณค่าการใช้ชีวิตที่สมดุลย์อย่างยั่งยืนเป็นที่ตั้งแล้ว ต้องมีความเข้าใจและตระหนักรู้ให้เกิดแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนชีวิตเพื่อเปลี่ยนจากเส้นทางเดิมมาสู่เส้นทางใหม่ หาไม่เช่นนั้นแล้วก็จะไม่สามารถก้าวผ่านกรอบจำกัดเดิมๆ ได้  เมื่อมุมมองเปิดขึ้นความรู้ที่เคยมีก็จะถูกคัดกรองเหลือเฉพาะที่สอดคล้องกับมุมมองใหม่ ผู้คนจะเริ่มมองหาสิ่งที่ยังไม่รู้ ไม่มีความสามารถเข้ามาประกอบเพื่อเป็นกำลังในการสร้างอนาคตใหม่ ด้านเทคนิคและเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตจะมีความต้องการในการแสวงหาความรู้ด้านเทคโนโลยีต่างๆ ของผู้คนผ่านระบบการถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ทั้งทาง Online และ Offline เพื่อเรียนรู้ฝึกฝนนำมาใช้ ไม่ใช่เพื่อได้ใบประกาศนียบัตร 

มุมธุรกิจที่เอื้อเฝื้อสนับสนุน มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาสังคมจะเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (อายุ 25-35 ปีในปัจจุบัน) เพราะเขาเหล่านั้นเติลโตมาพร้อมกับโลกที่เริ่มมีปัญหามากจนเป็นกระแสใหญ่ในโลก เรื่องของปัญหาต่างๆ ถูกหยิบยกขึ้นมาในเวทีสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะใน 10 ปีหลังนี้ภาพ วิดีโอ และข้อมูลต่างๆ ได้ไหลเข้ามาในโลก Online ให้เหล่าเด็กวัยรุ่นใน 10 ปีที่ผ่านมาเสพจนเกิดเป็นแรงขับดันสำคัญ อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาภาพของสังคมยังเป็นภาพของผู้คนรอบๆ ตัวเขา ไม่ใช่ตัวเขา และมองว่าเขามีชีวิตที่สามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง จากนี้ไปมุมมองที่ชัดขึ้นว่าสังคมและตัวเราคือสิ่งเดียวกันเป็นหนึ่งเดียวเชื่อมกันและเป็นเหตุเป็นผลของกันและกันจะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จากเหตุการณ์ COVID-19 ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความเดือดร้อนของสังคมมีผลกระทบต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อคนในสังคมมีปัญหา มีวิถีที่เปลี่ยนไป ทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปด้วย เราคือสิ่งเดียวกันอย่างชัดเจน 

เช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนไปในทางที่มีผลกระทบรุนแรงต่อการใช้ชีวิต ทำให้มุมมองทางธุรกิจถูกตบหน้าให้มองผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ทั้งจากหน่วยงานที่กำกับดูแลระดับโลก หรือภาคสังคม ที่ผ่านมาอาจจะแค่หน้าชาๆ และก็หลับหูหลับตาทำต่อไปเพราะทำกำไรได้สูง และหลบๆ ลืมๆ การทำลายสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากผลของการทำธุรกิจนั้น จากนี้ต่อไปภาคสังคมเข้มแข็งขึ้น สื่อสารได้ฉับไวต่อต้นเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และหน่วยงานกำกับดูแลก็เข้มงวดมากขึ้น เพราะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนั้นมีทิศทางที่จะพาเราไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของโลก มากมายมหาศาลกว่าเรื่องของ COVID-19 ณ ตรงนั้นการจินตนาการฉากชีวิตที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงมาก อาจจะเกินกว่าที่มุษย์ในปัจจุบันจะจินตนาการฉากชีวิตของตนเองได้ เช่น “จะเป็นอย่างไรนะถ้าน้ำแข็งขั้วโลกละลายหมด?” “จะเป็นอย่างไรนะถ้าค่า PM2.5 อยู่ในระดับอันตรายตลอดเวลา?” เรื่องของสิ่งแวดล้อมนี้อาจจะถูกตระหนักมากขึ้นว่าสิ่งที่เราทำวันนี้จะมีผลกระทบต่อทุกคนในอนาคต รวมถึงตัวเราเองและเมื่อถึงจุดนั้น “เงิน” อาจจะมีความหมายน้อยลงมาก

หากกำหนดเส้นทางของตนเองที่ประสานสมดุลย์ทุกด้านอย่างดีแล้ว ความยั่งยืนจะกำเนิดมาจากคุณค่าของธุรกิจใหม่มี core value ที่ชัดเจนที่นำเสนอสู่สังคมมนุษย์ และเมื่อผู้คนได้รับคุณค่า เขาก็จะสนับสนุนให้สิ่งนั้นอยู่ตรงนั้นต่อไปตราบเท่าที่คุณค่านั้นยังอยู่ และนี่คือภาพของความยั่งยืนแบบที่โลกในอนาคตจะต้องการ หลายท่านอาจจะอยู่ในด้านใดที่ตนเองชอบ รัก ถนัดทำ ไม่ว่าด้านใดก็สามารถสร้างคุณค่าและเชื่อมโยงกับผู้สร้างคุณค่าอื่นๆ เป็น value chain ที่ใหญ่ได้ ตัวอย่าง value chain ที่อาจจะเติบโตในอนาคตอันใกล้ที่พอมองเห็นได้ก็เช่น value chain ของ Content ความรู้ทักษะในการปรับรูปแบบชีวิต, value chain ของ อาหารการกินที่ดี, value chain ของการพักผ่อนออกกำลังกาย, value chain ของ Supply service ในการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ๆ, value chain ของการพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ 

ไม่ว่าท่านจะเป็นส่วนใดใน value chain ไหนความเป็นไปได้ของแนวทางธุรกิจตามรูปแบบแนวคิดใหม่ของท่านจะเป็นสิ่งที่ทำให้ท่านตื่นขึ้นมาแล้วกระชุ่มกระชวย อยากจะลุกออกจากเตียงไปทำตามความฝันนั้นทุกๆ วันก็ถือว่าเป็นแนวคิดทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำให้เรามีความสุข นี่คือปลายทางที่ค้นหาและสามารถรับรู้ได้ในทุกเช้า สุดท้ายทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป เกิดใหม่ ตั้งอยู่ และการฝันถึงอนาคตก็จะเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในชีวิตเรา มันคือคุณค่าที่เป็นพลังที่สำคัญที่เราจะเดินหน้าต่อไปในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

Scroll to Top