กรุงเทพฯ : วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รับรางวัลสุดยอดหน่วยงานภาครัฐ “สำเภา-นาวาทอง” ประจำปี 2567 ด้านการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ ที่ได้ปรับปรุงกระบวนงานและการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัล ประเภทหน่วยงาน “ระดับกระบวนงาน” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล พร้อมด้วย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการ และประธานคณะทำงานจัดงานฯ ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
การประกาศรางวัลสุดยอดหน่วยงานรัฐ หรือรางวัล “สำเภา-นาวาทอง” เป็นรางวัลที่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มอบให้กับหน่วยงานภาครัฐ โดยตระหนักถึงความทุ่มเทในการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจได้รับบริการที่รวดเร็ว และช่วยลดอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยใช้เกณฑ์และมาตรฐานในการประเมินตัดสินจากภาคธุรกิจ ซึ่งจะสะท้อนมุมมองจากผู้ใช้บริการอย่างแท้จริง
นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า “สถาบันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ภาคธุรกิจและหอการค้าไทย เห็นถึงความมุ่งมั่นของสถาบันในการพัฒนากระบวนงานและการให้บริการให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องด้วยเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรสมรรถนะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล ในปีที่ผ่านมา สถาบันได้ร่วมกับที่ปรึกษาจากภายนอกจัดทำแผนปฏิบัติการด้านดิจิทัลระยะ 5 ปี ที่ครอบคลุมทั้งด้านแนวนโยบาย แนวทางการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล การบริหารจัดการองค์กรและการบริการสาธารณะในรูปแบบดิจิทัล การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบสารสนเทศที่มั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในทางปฏิบัติ สถาบันได้ยกระดับการให้บริการข้อมูลอุตสาหกรรมเชิงลึกบนหลักการธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) ที่มุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพ การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลในลักษณะ Open Data ที่ผู้รับข้อมูลรูปแบบดิจิทัลสามารถนำไปใช้สร้างประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พัฒนารูปแบบธุรกิจ สินค้า และบริการใหม่ๆ ได้ทันที นอกจากนี้สถาบันยังได้ต่อยอดการพัฒนาซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการงานตรวจสอบรับรองของสถาบันทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการรับคำขอใช้บริการ การออกใบเสนอราคา การปฏิบัติงาน การออกรายงานผล จนถึงการส่งข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศให้หน่วยงานกำกับดูแลเพื่อออกใบอนุญาตหรือเครื่องหมายรับรอง ครอบคลุมงานทดสอบและรับรองผลิตภัณฑ์ งานสอบเทียบเครื่องมือวัด งานตรวจโรงงาน ที่ผู้รับบริการสามารถติดตามสถานะของงานได้ตลอดเวลา”
“ในการพัฒนายกระดับการให้บริการ สถาบันได้ขยายขอบข่ายการให้บริการตรวจสอบรับรองครอบคลุมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มีความพร้อมในการให้บริการทดสอบสถานีอัดประจุไฟฟ้าและการทดสอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรทั้งด้านความปลอดภัย ด้านประสิทธิภาพ และด้านความเข้ากันได้ทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMC) มีการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการจัดการซากเครื่องปรับอากาศและสารทำความเย็นอย่างถูกวิธีและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน สถาบันได้เพิ่มบทบาทในการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการด้าน Green Transition เช่น การใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มผลิตภาพและจัดการการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ทั้งของผลิตภัณฑ์และองค์กร อันจะส่งผลให้ภาคธุรกิจมีการพัฒนาอย่างสมดุล สามารถแข่งขันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป” ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวทิ้งท้าย
สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เป็นสถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม การดำเนินงานประกอบด้วยศูนย์ข้อมูลอุตสาหกรรมเชิงลึก ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บริการเพื่ออุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ มีพันธกิจในการสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ด้วยบริการให้คำปรึกษา วิจัยและพัฒนา ฝึกอบรม ตรวจสอบและรับรอง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์สู่ความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนใจศึกษารายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaieei.com หรือโทรศัพท์ 02 280 7272